หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สูตรน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ


น้ำมะระ ปั่น
มะระ ผักผลผิวขรุขระ ที่มีรสขมจนเด็กๆขยาด  เน้นที่มะระจีน เพราะเนื้อมะระจีนนี้ประกอบด้วยวิตามินซี วิตามินบีรวม และเกลือแร่ชนิดต่างๆ เหตุที่เนื้อมะระมีรสขมก็เพราะ มีสารอัลคาร์ลอยด์ชื่อ โมโมดิดิน ช่วยทำให้เจริญอาหาร และเป็นยาระบายอ่อนๆ สามารถต้านเชื้อไวรัส แถมล่าสุดยังมีการวิจัยค้นพบว่า มะระขี้นก(ผลเล็กๆที่แกล้มกับน้ำพริก)ช่วยต้านเชื้อไวรัส H I V ได้อีกด้วย น้ำมะระที่จะนำเสนอสูตรวันนี้ เป็นมะระปั่นที่พี่เบิร์ด(ธงไชย) ชอบดื่มเป็นประจำ พี่เบิร์ดว่าทานแล้วจะชะลอความชราได้จ้า 

วิธีทำ (จำนวน 3แก้ว)

 เนื้อมะระสดหั่นชิ้น  2 ถ้วย 
น้ำส้มคั้น  1/2 ถ้วย 
น้ำมะนาว  2 ช้อนโต๊ะ 
น้ำเชื่อม 3 ช้อนโต๊ะ 
เกลือป่น  1/4 ช้อนชา 
น้ำต้มสุกแช่เย็น  1 ถ้วย 
น้ำแข็งบดละเอียด  1 ถ้วย 

เลือกมะระจีนแก่จัด ดูที่เปลือกสีเขียวอมขาว ล้างน้ำให้สะอาด ผ่าเอาเม็ดออก หั่นเป็นชิ้นนำไปแช่ตู้เย็นให้เย็นจัด เพื่อลดความขมและกลิ่นเหม็นเขียว เมื่อเย็นได้ที่ นำส่วนผสมทั้งหมดปั่นเข้าด้วยกันให้ละเอียด รินใส่แก้วแล้วดื่ม












น้ำว่านหางจระเข้เย็น

ส่วนผสม    

  เนื้อว่านหางจระเข้ประมาณ 1 ถ้วยตวง (250 กรัม)    
  น้ำสะอาด 3 ถ้วยตวง    
  ใบเตยสด 2-3 ใบ    
  น้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ    

วิธีทำ  
- ให้เลือกใบขนาดใหญ่ที่อยู่ส่วนล่างๆ ของกอว่านสัก 1 ใบมาใช้ก่อน เพราะจะให้วุ้นมากกว่าใบเล็ก ปอกเปลือกสีเขียวออก ล้างให้หมดยาง แล้วนำลงภาชนะเคลือบหรือแก้วทนไฟ  
- เติมน้ำสะอาดประมาณ 3 ถ้วยตวง นำขึ้นต้มด้วยความร้อนปานกลาง  
- ระหว่างรอวุ้นสุก นำใบเตยสดประมาณ 2-3 ใบ มาซอยละเอียดแล้วคั้นด้วยน้ำอุ่นจัด ๆ ให้ได้น้ำใบเตยสดประมาณครึ่งถ้วยตวง  
- เมื่อวุ้นว่านหางจระเข้สุกแล้ว ยกลงตักเฉพาะวุ้นมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำลงเครื่องปั่น พร้อมน้ำใบเตยสด น้ำสุกครึ่งถ้วยตวง และน้ำแข็งเกล็ด ประมาณครึ่งถ้วยตวง อาจเติมน้ำเชื่อมสัก 1 ช้อนโต๊ะ  
- ปั่นสว่นผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน เสิร์ฟทันที ว่านหางจระเข้มีน้ำยาง ที่ทำให้สตรีมีครรภ์ สตรีที่อยู่ระหว่างมีรอบเดือน ผู้ที่เป็นริดสีดวง เกิดอาการแพ้ได้  

คุณประโยชน์    

ว่านหางจระเข้ เป็นยาระบาย ช่วยชับถ่าย    
ใบเตย บำรุงหัวใจ ทำให้ชุ่มคอ 


หมายเหตุ : ความโดดเด่นที่รู้กันทั่วไปของว่านหางจระเข้ก็คือ ว่านทรงคุณค่าชนิดนี้เป็นเสมือนโรงงานอุตสาหกรรมจากธรรมชาติที่เต็มไปด้วยสารเคมีที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะจากวุ้นใสๆ ที่อยู่ภายในใบอันยาวหนา ปลายแหลม ซึ่งเต็มไปด้วยสารอล็อคติน อโลอิโมดิน อโลซิน อโลอิน ไกลโคโปรตีน และโพลีซัคคาไรด์ ที่มีฤทธิ์เร่งการจับตัวของเลือดและเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์ร่างกาย ใช้ทาเพื่อสมานบาดแผลไฟไหม้ แผลที่เกิดจากความร้อน รังสีเอกซ์ รังสีจากสารกัมมันตรังสี น้ำร้อนลวก แมลงสัตว์กัดต่อย ฟกช้ำ หรือผิวหนังไหม้ที่เกิดจากถูกแดดเผา และยังมีสารบราดิไคนิเนส (Bradykininase) ที่ช่วยดูดพิษเพื่อลดการอักเสบของบาดแผลได้ดียิ่ง มีสารอโลอัลซิน ช่วยยับยั้งการสังเคราะห์ฮิสตามีน และส่วนรากมีฤทธิ์บรรเทา อาการทางเดินปัสสาวะอักเสบ ยางสีเหลืองจากเปลือก มีสารแอนทราควิโนน ช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นปกติ วุ้นจากว่านหางจระเข้ จะช่วยบำรุงร่างกาย บรรเทาความอ่อนเพลีย เนื่องจากพักผ่อนน้อย รวมไปถึงการบำบัดแผลเรื้อรัง และแผลในกระเพาะอาหารได้เป็นอย่างดี





ชาตะไคร้สะระแหน่ 

เครื่องปรุง

น้ำ 4 ถ้วย  
ตะไคร้ซอยชนิดแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ  
ยอดสะระแหน่ 5 ยอด  
ยอดสะระแหน่สำหรับตกแต่ง    

วิธีทำ

1.  ต้มน้ำในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือดจัด ปิดไฟ ใส่ตะไคร้กับยอดสะระแหน่ แช่ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง เทใส่เหยือก เตรียมไว้
2.  รินใส่แก้ว ตกแต่งด้วยยอดสะระแหน่ เสิร์ฟ

สรรพคุณ : แก้ปวดกระดูก , ปวดหลัง , ปวดแข้งปวดขา , ป้องกันโรคกระดูกผุ , นั่งดูหนังสือแล้วตาลาย ลุกขึ้นแล้วหน้ามืด , ป้องกันโรคไต , เบาหวาน , คอเรสเตอรอล





น้ำเสาวรส

"เสาวรส" หรือที่บางคนเรียกว่า กะทกรกฝรั่ง หรือจะเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Passion Fruit นั้น เป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่แถวๆ ทวีปอเมริกา แต่ก็เติบโตได้ดีในประเทศไทย ผลมีลักษณะต่างกันไปตามพันธุ์ มีทั้งรูปกลม รูปไข่ แต่สำหรับเนื้อภายใน ก็มีหน้าตาคล้ายทับทิมบ้านเรานี่เอง
       
ชาติของเสาวรสนี้ก็ออกเปรี้ยว คนจึงนิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่ม ทั้งเป็นน้ำเสาวรสคั้นสด หรือเอามาผสมกับน้ำผลไม้อื่นๆ อย่างน้ำส้ม สัปปะรด หรือแอปเปิ้ลก็ได้ และด้วยความเปรี้ยวนี้เองทำให้เสาวรสอุดมไปด้วยวิตามินซี ใครที่เป็นหวัดเจ็บคออยู่ก็จิบน้ำเสาวรสเข้าไปก็จะช่วยบรรเทาอาการได้ หรือใครที่ยังไม่เป็นหวัด วิตามินซีในเสาวรสก็จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้อีกต่างหาก และนอกจากวิตามินซีแล้ว เสาวรสก็ยังมีวิตามินเอ โดยเฉพาะสารแคโรทีนอยด์ จึงช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่งได้ด้วย
       
ประโยชน์ของเสาวรสยังไม่หมดแค่นั้น เพราะการดื่มน้ำเสาวรสเป็นประจำทุกวันก็ยังช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับ และรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้อีกต่างหาก ส่วนการบริโภคนั้นนอกจากจะดื่มเป็นน้ำผลไม้แล้ว ถ้าอยากจะกินผลสดๆ เลยก็สามารถทำได้เช่นกัน

ส่วนผสม
เสาวรส                  8 ลูก 
น้ำตาลทราย          1/2 ถ้วยตวง 
เกลือป่น                1 ช้อนชา 
น้ำสะอาด             1 ถ้วยตวง 

วิธีทำ
1. ล้างเปลือกเสาวรสให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ 
2. ใส่น้ำตาลทราย และน้ำสะอาดลงในหม้อ ตั้งไฟพอเดือด คนให้น้ำตาลละลายทั่วกัน ตั้งไฟอ่อนต่อไปอีก ประมาณ 3 นาที ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น
2. ผ่าเสาวรส แล้วเทเนื้อลงเครื่องปั่น เติมเกลือป่น ปั่นจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน

หมายเหตุ
เนื่องจากเสาวรสรสมีรสเปรี้ยว เวลาเสิร์ฟจึงต้อง ใส่น้ำเชื่อมลงคน ให้เข้ากัน ก่อนใส่น้ำ





น้ำดอกอัญชัน
สามารถบำรุงเส้นผม บำรุงสายตากัน
ส่วนผสม สูตร 1 
• ดอกอัญชันสด              5 ดอก
• น้ำเปล่าสะอาดเดือด     1 แก้ว (200 ซีซี)
• น้ำผึ้ง                          1 ช้อนโต๊ะ (15 ซีซี)
วิธีทำ
1.   ล้างดอกอัญชันสดให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า เด็ดส่วนที่เป็นก้านดอกทิ้ง เอาแต่ดอกส่วนที่มีสีน้ำเงิน 5 ดอก ใส่ลงในแก้วที่มีที่กรองชา หากไม่มีแก้วที่กรองใบชาได้ ก็ใช้แก้วชาทั่วไปได้ 
2.   ต้มน้ำให้เดือด เทน้ำเดือดลงผ่านกลีบดอกอัญชัน แล้วเขย่าแก้วเบาๆ สีจะกระจายลงในน้ำ หากไม่มีสีออกมา ใช้ช้อนลงช่วยคนได้ สัก 2-3 นาที จนสีกลีบดอกซีด ยกที่กรองชาออก หรือถ้าไม่ทีที่กรองชา ก็ใช้ช้อน ตักกลีบดอกทิ้งไป 
3.   เติมน้ำผึ้ง จะได้น้ำ สีฟ้าอมเขียว เติมน้ำแข็ง หรือดื่มร้อนได้ตามชอบ 
ส่วนผสม สูตร 2 
• ดอกอัญชันสด             5 ดอก
• น้ำเปล่าสะอาดเดือด      1 แก้ว (200 ซีซี)
• น้ำตาล                       1 ช้อนชา
• น้ำมะนาวสด                1 ช้อนโต๊ะ (15 ซีซี)
วิธีทำ
1.   ล้างดอกอัญชันสดให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า เด็ดส่วนที่เป็นก้านดอกทิ้ง เอาแต่ดอกส่วนที่มีสีน้ำเงิน 5 ดอก ใส่ลงในแก้วที่มีที่กรองชา หากไม่มีแก้วที่กรองใบชาได้ ก็ใช้แก้วชาทั่วไปได้ 
2.   ต้มน้ำให้เดือด เทน้ำเดือดลงผ่านกลีบดอกอัญชัน แล้วเขย่าแก้วเบาๆ สีจะกระจายลงในน้ำ หากไม่มีสีออกมา ใช้ช้อนลงช่วยคนได้ สัก 2-3 นาที จนสีกลีบดอกซีด ยกที่กรองชาออก หรือถ้าไม่ทีที่กรองชา ก็ใช้ช้อน ตักกลีบดอกทิ้งไป 
3.   เติมน้ำแข็ง รอจนเย็นดีแล้ว เติมน้ำมะนาวสด จะได้น้ำสีฟ้าอมม่วง 
ส่วนผสม สูตร 3 
• ดอกอัญชันสด             5 ดอก
• น้ำเปล่าสะอาดเดือด      1 แก้ว (200 ซีซี)

วิธีทำ
1.   ล้างดอกอัญชันสดให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า เด็ดส่วนที่เป็นก้านดอกทิ้ง เอาแต่ดอกส่วนที่มีสีน้ำเงิน 5 ดอก ใส่ลงในแก้วที่มีที่กรองชา หากไม่มีแก้วที่กรองใบชาได้ ก็ใช้แก้วชาทั่วไปได้ 
2.   ต้มน้ำให้เดือด เทน้ำเดือดลงผ่านกลีบดอกอัญชัน แล้วเขย่าแก้วเบาๆ สีจะกระจายตัวลงในน้ำ ใช้ช้อนลงช่วยคนได้ สัก 2-3 นาที จนสีกลีบดอกซีด ยกที่กรองชาออก หรือถ้าไม่ทีที่กรองชา ก็ใช้ช้อน ตักกลีบดอกทิ้งไป 
จะได้น้ำ สีฟ้าสด เติมน้ำแข็ง หรือดื่มร้อนๆ ได้ตามชอบ จะมีรสชาติของอัญชันสด (กลิ่นคล้าย ผัก) หากชอบหวานเติมน้ำตาลสัก 1 ช้อนชาได้
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร    สารอาหารให้สารสีฟ้า ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันความเสื่อมของร่างกาย บำรุงผมให้สีเข้มเสมอ บำรุงสายตาป้องกันอันตรายจากแสงจ้า
คุณค่าทางยา          ดอกมีคุณค่าทางสมุนไพรช่วยปลูกผม ราก บำรุงตาแก้ตาฟาง ตาแฉะ ปรุงเป็นยาขับปัสสาวะ 





น้ำตำลึง
ไม่น่าเชื่อใช่ไหม ว่าตำลึงก็นำมาเป็นเครื่องดื่มได้ อร่อยด้วย มีประโยชน์ หาง่าย ส่วนใหญ่ขึ้นตามรั้ว ไม่มียาฆ่าแมลง
ส่วนผสม 
• ใบตำลึง                     20 กรัม (หั่น 10 ช้อนคาว) 
• น้ำเชื่อม                     30 กรัม (2 ช้อนคาว)
  (ใช้สารให้ความหวานหรือน้ำตาลเทียมแทนได้)
• น้ำมะนาว                    10 กรัม (2 ช้อนชา) 
• เกลือป่น เสริมไอโอดีน    1 กรัม (1/5 ช้อนชา)
• น้ำเปล่าสะอาด          200 กรัม (14 ช้อนคาว ประมาณ 1 แก้ว)

วิธีทำ
ล้างใบตำลึงให้สะอาด ใส่เครื่องปั่น เติมน้ำเปล่าครึ่งหนึ่ง ปั่นให้ละเอียด (ถ้าไม่มีเครื่องปั่น ก็ใช้ครกตำให้ละเอียดก็ได้ แต่ต้องล้างครกและสากให้สะอาดไม่มีกลิ่นก่อน) แล้วนำไปกรอง ใส่น้ำที่เหลือลงกากที่เหลือ คั้นต่อเอาแต่น้ำ นำน้ำที่ได้ไปใส่เกลือ น้ำมะนาว น้ำเชื่อม ชิมรสตามชอบ ถ้าต้องการเติมน้ำแข็ง เวลาทำให้ลดน้ำเปล่าลงครึ่งหนึ่ง เพื่อให้เข้มข้น เวลาใส่น้ำแข็งจะได้ไม่จืด ควรรีบดื่มเพื่อให้ได้คุณค่า
ประโยชน์ที่ได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีวิตามิน เอ สูง ช่วยบำรุงสายตา มีแคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส บำรุงกระดูก และวิตามินซี ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
คุณค่าทางยา
• นำใบมาตำให้ละเอียด พอกแก้อาการแพ้ แมลงกัดต่อย 
• นำมารับประทานช่วยป้องกันโรโลหิตจาง โรคมะเร็ง และหัวใจขาดเลือด